วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2562

คำว่าเพื่อนในภาษาญี่ปุ่น

ชื่อแก๊งค์ของมิกกี้เม้าส์คือ Disney's Friend.
หรือ ディズニーの仲間たち ในภาษาญี่ปุ่น

เห็นมิกกี้เม้าส์ใช้คำว่า 仲間 แทนที่จะเป็น 友達 เลยต้องไปหาความหมายเลย
nakama-tachi ต่างกับ tomodachi ยังไง ทั้ง 2 คำแปลว่าเพื่อน นอกจากนี้ก็ยังอื่น 2 คำที่แปลว่าเพื่อน  "มิคาตะ" (味方) และ "yuujin" ( 友人) แต่ 2 คำนี้ธรรมดามากกว่า
โทโมดาจิกับ นากามะทาจิ

เราไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นก็เลยหาความหมานจากกูเกิ้ลเอา

เค้าอธิบายว่า 友達
"โทโมดะจิ" ประกอบด้วยตัวคันจิสำหรับ "เพื่อน" และ "หลายฝ่าย" ซึ่งให้ความหมายแฝงของกลุ่มเพื่อน
ปกติใช้กับ เพื่อนที่ชอบไปเที่ยวกันไปทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน เพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนวัยเด็ก เพื่อนบ้าน เพื่อนในชีวิตประจำวันทั่วไป

仲間
แม้ว่าคำว่า "นากามะ" ก็แปลว่า "เพื่อน" แต่ก็มีความหมายที่แตกต่างจาก "โทโมโดจิ" ซึ่งประกอบด้วยตัวคันจิสำหรับ "ความสัมพันธ์" และ "พื้นที่" ซึ่งให้ความรู้สึกของสิ่งที่เข้มข้นและซับซ้อนกว่าเพียงแค่  กลุ่มเพื่อน  ลูฟี่และโจรสลัดหมวกฟางของเขาจาก One Piece สามารถเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่ใช้อธิบายด้วยคำว่า 仲間 ได้

นากามาไม่จำเป็นต้องชอบกันหรือต้องการออกไปเที่ยวกับคนอื่นซึ่งแตกต่างจากโทโมดาชิ  สำหรับนากามามิตรภาพที่ผูกมัดพวกเขามาจากการมีเป้าหมายและค่านิยมร่วมกันมากกว่าที่จะเพลิดเพลินไปกับ บริษัท ของกันและกัน  โซโระไม่ชอบบุคลิกของซันจิอย่างไม่น่าเชื่อโรบินและมักเบื่อหน่ายกับการแสดงตลกของลูฟี่และอุซป  แต่ถ้าใครคุกคามความเป็นอยู่ของพวกเขาคุณสามารถพนันได้เลยว่าเขาจะอยู่ตรงนั้นเพื่อปกป้องพวกเขาด้วยชีวิตของเขา  ในทำนองเดียวกันถ้าหมวกฟางคนใดคนหนึ่งพบว่ามีใครบางคนที่เห็นคุณค่าของพวกเขาและสถานการณ์ที่เห็นอกเห็นใจโดยเฉพาะลูฟี่พวกเขาจะไม่เห็นแก่ตัวปกป้องบุคคลนั้นโดยไม่ต้องรู้จักพวกเขาอย่างเต็มที่หรือชอบพวกเขา  ลูกเรือหมวกฟางถูกผูกไว้ด้วยเป้าหมายร่วมกันในการบรรลุความฝันและความรู้สึกร่วมกันในการปกป้องอุดมคติของพวกเขาในจิตวิญญาณของนากามาที่แท้จริงซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความรักและคำพูดที่เป็นมิตร

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ไอเดียโต๊ะทำงาน

คิดว่าจำทำโต๊ะทำงานตัวเองแบบนี้ โต๊ะสำหรับทำงานประดิษฐ์ต่างๆ



วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560

Trailer ที่ 2 ของ 『こどもつかい』

วันนี้ 29/4/2017
ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง 『こどもつかい』 ได้ปล่อย Trailer ตัวที่ 2 แล้วค่า ดีใจจัง
เว็บหนัง
http://kodomo-tsukai.jp/

Trailer ตัวที่ 1
https://www.youtube.com/watch?v=-3QC0Yv3mgE

Trailer ตัวที่ 2
https://www.youtube.com/watch?v=VjbPCfOcdN8

หลังจากได้ดูตัวอย่างที่ 2 ของภาพยนตร์เรื่องนี้

เท่าที่เข้าใจ คือตอนแรกเค้าควบคุมจิตใต้สำนึกเด็กก่อน ให้เด็กไปทำร้ายผู้ใหญ่อีกที แต่โดยธรรมชาติผู้ใหญ่ไม่กลัวเด็ก เพราะงั้นเด็กจึงมาในรูปผี

ผู้ใหญ่ที่เข้าข่ายถูกทำร้ายและเป็นเป้าหมายพี่กี้คือ ผู้ใหญ่ที่เคยมีประวัติรังแกเด็ก ทำร้ายทารุณเด็ก ทำแท้ง เป็นต้น

ส่วนตัวเรายังมองในแง่ดีว่า เด็กผีในเรื่องคือยังไม่ตายนะ ยังไม่เป็นผี เพียงแต่ถูกควบคุมจิตใต้สำนึกให้ไปทำร้ายผู้ใหญ่เท่านั้น เป็นการแก้แค้น

นั่นคือเรากำลังคาดหวังตอนจบของเรื่อง จะจบมาในลักษณะที่ว่า เด็กที่หายไปได้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่ ในสภาพที่พ่อแม่สำนึกผิดที่เคยทารุณเด็กแล้ว
ในเทรลเลอร์ที่เด็กท่องบทสวดอะไรสักอย่าง มันก็มองได้ว่า เป็นการสะกดจิตอย่างนึง มองได้ว่า จริงๆพี่กี้ไม่ใช่หมอผี เป็นเพียงนักสะกดจิตคนนึง
พูดง่ายๆคือเด็กถูกสะกดจิตให้ไปแก้แค้นผู้ใหญ่ ส่วนภาพที่ผู้ใหญ่มองว่าเด็กเป็นผี นั้นอาจมาจากจิตสำนึกของผู้ใหญ่เองที่เคยทำชั่วๆมา เลยหลอนไปเอง

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

อาหารญี่ปุ่น 1




そぼろ丼 
Soboro Don
บางคนเรียกข้าวสามสี 
บางคนเรียกข้าวหน้าไก่กับไข่
-----------------------------------------------------------------




 ネギトロ丼 
เนงิโทโร่ด้ง
ข้าวหน้าปลาโทโร่บด
บอกตามตรงเวลาไปร้านข้าวญี่ปุ่นแล้วเจอเมนูนี้
ไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร เลยลองเสิร์ชดู
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่กินแบบดิบด้วย
แต่จริงๆบางคนก็ทำเมนูนี้ทานแบบทำให้สุขก่อนก็มี
เมนูเกรียนๆๆๆ
ที่บอกว่าเกรียนเพราะปกติเค้ากินข้าวหน้าปลาดิบแบบ ปลาต้องสด มาเป็นชิ้นๆสวยๆงี้
แต่เมนูนี้คือแบบ เอาเนื้อปลามาสับๆเละๆผสมกับมายองเนสแล้วสับๆ
แล้วมาโป๊ะข้าว  เด็กเกรียนๆบางคนชอบ
แต่คนที่พิถีพิถันบางคนไม่ชอบ เพราะเค้าถือว่า ไม่รู้ว่าร้านเอาเนื้อส่วนไม่ดีมาสับๆให้กินหรือเปล่า
ถ้าสั่งข้าวหน้าปลาดิบปกติ เราได้ปลาเป็นชิ้นๆมาเลย แบบนั้นดีกว่า
-----------------------------------------------------------------


วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[สปอย คุยเรื่อยเปื่อย] หนังการ์ตูน Miss Hokusai


Miss Hokusai  百日紅 หนังการ์ตูนจากค่าย IG  ไม่ดังในไทย ไม่มีกระแส
แต่เป็น 1 ในหนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ แต่คิดว่าคงไม่ได้หรอก
ตอนแรกเห็นชื่อก็อยากดูเลยแหละ ชื่อเรื่อง Miss Hokusai ตอนเห็นชื่อครั้งแรกคิดว่าต้องเกี่ยวกับจิตรกรสมัยเอโดะที่ชื่อโฮคุไซแน่ๆ ก็เลยอยากดู  พอลองดู Trailer แล้วพบว่าเป็นเรื่องของลูกสาวของเค้านั่นเอง ซึ่งน่าสนใจดี ขอเรียกนางเองว่าอาโออิแล้วกัน จริงๆคือ 葛飾 応為

ออกตัวก่อนว่าที่สนใจดูหนังเรื่องนี้เพราะส่วนตัวสนใจภาพวาดสมัยเอโดะอยู่แล้ว
คิดว่ามันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวดี ชอบดู แต่ไม่ได้ชอบเอามาเก็บไว้ที่บ้าน คือชอบดูเฉยๆ

ออกตัวก่อนว่าไม่ได้ชอบดูหนังญี่ปุ่นโบราณ ปกติละครพีเรียดไม่ดูเลย ไม่ชอบ

เราเคยดูสารคดีเกี่ยวกับโฮคุไซแล้วสนใจมาก ก็เลยไปหาดูในยูทูบอีกรอบ แม้ว่ามันจะเป็น Sub Eng ทั้งหมดก็ตาม  ผลงานของโฮคุไซ ส่วนใหญ่ผ่านตาเรามาหมดแล้ว
เราสนใจเรื่องพวกสีของสมัยก่อนด้วย บลาๆ 

พอมีหนังเรื่องนี้ก็เลยอยากดู ไม่ต้องไปอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ดูการ์ตูนน่าสนุกดี

เนื้อเรื่อง Base on หนังสือ ซึ่งเราไม่เคยอ่านเพราะมันเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วก็คิดว่าไม่อ่านดีกว่าเพราะเนื้อเรื่องมันอาจจะน่าเบื่อก็ได้

หนังการ์ตูนเรื่องนี้ทำกึ่งๆแนวชีวิตประวัติ มีสอดแทรกวัฒนธรรมสมัยเอโดะ มีคำพูดในยุคเอโดะบ้าง

ภาพในหนังการ์ตูนเรื่องนี้ มีต้นแบบจาก ภาพวาดสมัยเอโดะ  ตัวโฮคุไซเองเคยวาดรูปหน้าตัวเองเอาไว้
ซึ่งหนังเรื่องนี้เอาภาพวาดของเค้ามาเป็นต้นแบบตัวละครตัวนี้ ดูๆไปเหมือนเหมือนเอาภาพวาดสมัยเอโดะมาทำให้เคลื่อนไหวได้  แต่มันไม่ได้ดูขัดตาเมื่อเป็นการ์ตูนยุคเฮยเซย์ เลย ดูสนุกดี

ตัวลูกสาวเองที่เป็นนางเอกของเรื่อง เป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ประวัติของเธอจริงๆที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์มีค่อนข้างน้อยมากๆ มีคำกล่าวว่าเธอนั้นเป็นเหมือนเงาของพ่อ เป็นผู้ช่วยของพ่อ มีข้อมูลบอกว่าเธอวาดภาพได้เก่งพอๆกับพ่อของเธอ แต่ด้วยยุคเอโดะ จิตรกรหญิงยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าจิตรกรชาย ถ้าดูในหนังคือรู้สึกว่าเธอวาดภาพเก่งพอๆกับพ่อเลยแหละ แต่อย่างที่รู้ๆกัน ผู้หญิงถูกแบ่งชนชั้น ตอนนั้นเป็นยุคเอโดะ  

โฮคุไซพ่อของเธอเป็นคนสอนเธอวาดภาพ 
โฮคุไซบอกว่าเธอคิดว่าเธอวาดได้ทุกอย่าง พูดเหมือนดูถูก
แต่จริงๆเธอวาดได้ทุกอย่างจริงๆนะ แม้แต่ภาพอีโรติก  
แน่นอนว่าภาพอีโรติกเป็นที่นิยมในสมัยนั้นเช่นกัน  สมัยนี้บางคนคงเรียกการ์ตูนโป๊
ทั้งๆที่เธอเป็นผู้หญิงแต่กลับวาดภาพอีโรติกได้สวยงามสมจริง แต่ถึงกระนั้นก็ยังโดนดูถูกอยู่ร่ำไปน่าสงสารจริงๆ

ดูเหมือนเธอจะวาดภาพเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ เพื่อแม่และน้องสาวของเธอ  

ในหนังสร้างคาแรคเตอร์ออกมาให้นางเอกดูเป็นผู้หญิงแข็งๆ ไม่พูดจาอ่อนหวาน ไม่ค่อยแต่งหน้า แต่เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง อาจเพราะเธออาศัยอยู่กับพ่อ ที่มีคาแรคเตอร์เป็นศิลปินซกมกๆนิดๆ บ้านรกมาก แต่เธอยังไงก็คือผู้หญิงแหละ 

ตามประวัติบอกว่าเธอเป็นลูกของเมียคนที่ 2 ของโฮคุไซ แต่ในหนังไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนั้น
ในหนังเน้นไปที่น้องสาวแท้ๆของเธอที่ตาบอดแต่กำเนิดและร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง

-----------------------------------------------------------------
ชอบอะไรจากหนังเรื่องนี้
1. ได้ดูภาพในสมัยเอโดะแบบอนิเมะชั่น
2. ได้รู้จักคำพูดสมัยเก่าๆ สมัยเอโดะ (นิดหน่อย)
3. ได้เรียนรู้ชีวิตแบบสมัยเอโดะ (นิดหน่อย)
4. ดูเพลินดี
5. มีความแฟนตาซี มีผีด้วย
-----------------------------------------------------------------

ข้อ 6 ขอแปะรูปเพิ่มนะ

ในหนังเรื่องนี้มี 四万六千日(ชิมังโรคุเซ็นนิจิ) ด้วยแหละ เป็น 1 ในเทศกาลประจำปีของศาลเจ้าอาซากุสะ วัดเซนโซจิล่ะ 
วัดเซนโซจินะ มีเทศกาลทั้งหมด 10 เทศกาลในรอบปี ส่วนในหนังเรื่องนี้มีเทศกาลนึงนั่นคือ
四万六千日(ชิมังโรคุเซ็นนิจิ
เชื่อกันว่าเป็นวันที่จะได้รับผลบุญกุศลในส่วนของ 46,000 วัน
夕方から浅草は浅草寺に参拝し1日で4万6000日分の参拝を達成しました。
ช่วงวันที่ วันที่ 9 และ10 กรกฎาคม ของทุกปี  คราวนี้มาดูภาพในหนังกันว่าเห็นอะไร


ตรงถนนนากามิเสะ ในปัจจุบันมีร้านขายของเยอะแยะ แต่ในหนัง มีร้านขายต้นไม้เต็มเลยคืออะไรกันนะ
แต่นี่มันต้นอะไรเอ่ย ???
พอลองหาคำตอบดูก็พบว่า ปัจจุบันก็ยังทำแบบนี้กันอยู่ โดยเรียกว่า 江戸の風物詩  การจัดร้านแบบสมัยเอโดะแหละ





มันคือต้นโฮซุกิแหละ ほおずき  แต่ปกติเวลาเสิร์ชใช้คำนี้ล่ะ ほおずき市
ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเค้าซื้อไปทำอะไรกัน แต่เหมือนว่าจะมีร้านขายต้นโฮซุกิเยอะมากในเทศกาลนี้ล่ะ

-----------------------------------------------------------------

ข้อที่ 7 ต่อมา



ภาพจากหนังในรูปนี่คือสะพานเรียวโงะกุบาชิ Ryogoku Bridge 両国橋
เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงในสมัยเอโดะ ถ้าดูในหนัง นางเอกจะพูดว่า เราใช้สะพานนี้เพื่อข้ามไปฝั่งอาซากุสะ  วันๆนึงมีคนเดินข้ามสะพานเป็นพันๆคน คือเยอะมาก เป็นสะพานใหญ่ที่แข็งแรง รถม้าสามารถวิ่งข้ามไปมาได้เลย



แล้วมาดูภาพสมัยเอโดะ

สวยดีอ่ะ  เค้าเอาภาพสมัยก่อนมาเทียบกับสถานี่จริงแหละ
credit http://benimaru.com/log/?cat=4&paged=16

ขอจบการคุยเรื่อยเปื่อยแต่เพียงเท่านี้


-----------------------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[สปอย] 君の名はYour name ค.รู้สึกหลังดูจบ



[สปอย] 君の名はYour name ค.รู้สึกหลังดูจบ



พอดูจบก็คิดแบบติดตลกๆว่า ถ้าเราสลับร่างกับผู้ชายหล่อๆที่โตเกียวสักคนเค้าจะตกหลุมรักเรามั๊ยนะ ?
.
.
คงไม่รักเราแน่ๆ   ก็เลยคิดว่าพระเอกนางเอกเนี่ยเป็นเนื้อคู่กันจริงๆแหละ
เพราะว่านางเอกเป็นมิโกะ ทั้งคุณยาย ทั้งคุณแม่ก็มีพลังพิเศษที่ว่านี่  นึกถึงเรื่อง About Time เลย
พิเศษตรงที่  ไม่ใช่แค่สลับร่าง  แต่ว่าข้ามเวลาได้  ข้ามเวลาไปสลับร่างกับคนที่อยู่ต่างช่วงเวลากัน
แล้วทำไมนางเอกถึงสลับร่างกับพระเอกอ่ะ ?? ทำไมไม่เป็นคนอื่น  คงเพราะเป็นเนื้อคู่กันมั้ง
เพราะว่าพอสลับร่างกัน  ได้รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย  แล้วก็เลยรักกัน
กับบางคู่นะ  พอรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายแล้วเกลียดกันไปเลยก็มีอ่ะ  ใช่มั๊ยล่ะ              

เรื่องสาเกที่นางเอกทำไว้ด้วย  พระเอกรู้ว่านางเอกเป็นคนทำสาเกนั้น  คนทั่วไปมองก็ยังรังเกียจเลยนะ
แต่ว่าพระเอกที่รักนางเอกไปแล้ว  และเชื่อในความศักดิ์สิทธ์ของสาเกนั้นตามที่คุณยายบอกไว้  ก็เลยดื่มสาเกนั้นอย่างไม่รังเกียจและขอพร  ตอนที่ดื่มสาเกนี่ โรแมนติกจริงๆนะ  เหมือนว่าได้จูบกันแล้วงั้นแหละ
คือจริงๆแล้วเป็นสาเกศักดิ์สิทธ์นะ เพราะมิโกะเป็นคนทำในพิธีมงคล  และยังถือว่าเป็นอีกครึ่งนึงของตัวเองด้วย
คิดว่าเทพเจ้าศักดิ์สิทธ์จริงๆ เพราะนางเอกเคยพูดไว้ว่าชาติหน้าอยากเกิดเป็นหนุ่มโตเกียว  ก็ได้เป็นจริงๆแหะ

ผ่านไปตั้ง 5 ปี ทำไมเพิ่งมาเจอกันว่ะ  ??  นี่คือคำถามที่ 2
ตอนแรกคิดว่าพอกลับร่างเดิมแล้วความทรงจำก็เลยขาดหายไป  จริงอยู่ที่ว่ามีอะไรติดค้างอยู่ แต่นึกไม่ออก
แล้วเพื่อนแว่น กับรุ่นพี่คนสวยล่ะ สองคนนั้นก็น่าจะจำได้นะ  สองคนนั้นได้เห็นชื่อคันจิของนางเอกแล้ว รู้จักโรงเรียนของนางเอกด้วย  รู้ทางไปด้วย  แล้วทำไมถึงไม่ไปเจอกันอีกหลังจบเหตุการณ์นั้นอ่ะ

นั่นสินะๆๆ

เพราะว่าตอนที่พระเอกฟื้นขึ้นมาครั้งสุดท้ายหลังจากที่ช่วยนางเอกได้แล้ว  ความทรงจำก็ได้หายไป  พระเอกยังถามตัวเองเลยว่าฉันมาที่นี่ทำไม

คนสำคัญของเรื่องที่ต้องขอบคุณ
นั่นสินะๆๆ  คุณลุงที่ร้านราเมงไงล่ะ
พรหมลิขิตจริงๆเลยนะ   ว่ามั๊ยล่ะ ??
เพราะว่าบังเอิญไปทายราเมงร้านนั้น  ทั้งๆที่คิดว่าคงไม่เจอแล้วแท้ๆ  บังเอิญคุณลุงเป็นคนที่นั่น  ก็เลยช่วยขับรถพาไปที่โรงเรียน  แถมยังพาไปส่งที่ตีนภูเขาด้วย  แถมยังให้ข้าวปั้นไว้อีก

คุณลุงที่เป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น  ก็คงเสียใจไม่น้อย  คงมีคนรู้จักที่หายไปจากเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย
ขอบคุณคุณลุงจริงๆนะคะ  ไม่งั้นพระเอกนางเอกคงไม่ได้เจอกันอ่ะ

ถ้าจำไม่ผิด พระเอกเรียนสถาปัตฯใช่ป่ะ  ก็ไม่แปลกนะ เพราะวาดรูปเก่งนี่นา

นางเอกก็รักพระเอกตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว  พอพระเอกไปเดทก็น้ำตาไหล  อกหักก็เลยตัดผมซะงั้น

แล้วทำไมนางเอกไม่ไปหาพระเอกที่โตเกียวอ่ะ ?? นี่คือคำถามที่ 3
นางเอกเคยไปหาพระเอกที่โตเกียว  เคยเป็นพระเอก  รู้ว่าบ้านพระเอกอยู่ที่ไหน  อย่างน้อยก็รู้จักชื่อโรงเรียนอ่ะ
แล้วการจะไปโตเกียวมันก็ง่าย  อย่างน้อยก็ง่ายกว่าพระเอกที่ไปตามหานางเอกที่ต่างจังหวัดอ่ะ  มันยากจริงๆนะที่เจอ  แต่ว่าในโตเกียวอ่ะ หาข้อมูลง่าย ไปง่าย แค่รู้ชื่อสถานที่ก็ไปได้แล้ว  แล้วทำไมนางเอกถึงไม่ไปเจอพระเอกเลยนะ ตั้ง 5 ปีอ่ะ

ไม่อยากเจองั้นเหรอ ??
ไม่อยากบอกว่าขอบคุณสักหน่อยเหรอ ??
ทั้งๆที่รู้สึกรัก  ทั้งๆที่รู้สึกว่าเป็นคนสำคัญไม่ใช่เหรอ ??
ลืมชื่อของเค้าไปแล้วจริงๆสินะ ??
หรือว่า  กลัวว่าถ้าเจอแล้วอีกฝ่ายจำไม่ได้จะเจ็บปวด ??

แต่ก็เพราะว่าเป็นการ์ตูนแหละ ดูๆไป อย่าไปคิดมากดีกว่ามั้ง

เห็นมีคนสงสัยว่าพระเอกกับนางเอกลงคนละสถานีแล้วมาเจอกันได้ไง
เอาจริงๆถ้าเป็นคนโตเกียวทำได้อยุ่แล้ว  ถึงจะนั่งรถไฟคนละสาย ไปคนละทาง
แต่ถ้าเป็นคนโตเกียวจริงๆ ตอนรถสวนกันแป๊บนึงน่าจะพอเดาไดว่าอีกฝ่ายนั่งรถไฟสายอะไร
พอลงป้ายหน้าเป็นป้ายแรก  วิ่งลงมา มันจะต้องมีทางที่ไปหาอีกฝ่ายได้แน่นอน
คือมีแต่คนโตเกียวเท่านั้นแหละที่จะทำได้  ซึ่งไม่ใช่ปัญหา เพราะตัวนางเอกเองก็น่าจะอยู่โตเกียวมาหลายปีแล้ว

น้องสาวนางเอกก็มาเรียน ม.ปลายอยู่ที่โตเกียวแล้วด้วย
ใช่  จากเหตุการณ์ครั้งนั้น  เป็นไปได้ว่าบ้านของนางเอกกับศาลเจ้าพังทลายไปแล้ว  พ่อนางเอกคงให้นางเอกและน้องสาวรวมทั้งคุณยาย มาอยู่ที่โตเกียว  ซึ่งคงไม่เป็นปัญหาเรื่องเงิน เพราะคุณพ่อของเธอเป็นนักการเมือง
คุณยายเองก็คงตัดใจเรื่องผู้สืบทอดศาลเจ้าแล้ว  เพราะไม่ใช่แค่ศาลเจ้าพัง แต่เมืองหายไปเกือบทั้งเมือง

ทิ้งความทรงจำแล้วเริ่มต้นใหม่ที่โตเกียว
ทั้งนางเอกกับพระเอกต่างก็คงมีชีวิตของตัวเอง แต่ลึกๆก็ยังคงโหยหากันอยู่ เพียงแต่นึกไม่ออกเท่านั้น

ในตอนจบ  จบแค่ตรงเดินมาเจอกันนั้น
มันไม่สำคัญแล้วแหละ  ว่าจะลงเอยยังไง 
จะตกลงคบกันเป็นแฟนมั๊ย ?
จะได้รักกันจริงๆจนแต่งงานกันมั๊ย ?
สุดท้ายแล้วจะเป็นได้แค่เพื่อนกันรึเปล่านะ ??
มันไม่สำคัญแล้วแหละ  ว่าจะลงเอยยังไง 

เพราะถึงยังไงสองคนนี้ก็คือคนในพรหมลิขิตของกันและกันจริงแท้แน่นอน
เมื่อสองคนนั้นได้เจอกันแล้ว  แถมยังดูเหมือนจะโหยหากันด้วย
จบแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
จบตรงที่ภาพแห่งความตื้นตันของการที่ได้พบกันของคนที่โหยหามานาน

มาคิดๆดูทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบกันมาก
1.เราว่าเป็นหนังที่ดูได้หลายรอบไม่เบื่อ
2.สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่า เพราะเนื้อเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติถล่มเมือง  คนญี่ปุ่นเลยอินง่าย
3. ภาพสวย เหมือนสถานที่จริงและสวยมาก หลายฉากที่มีต้นแบบมาจากสถานที่จริง ทำออกมาได้สวยมาก
4. จังหวะการกำกับภาพ ตัดต่อภาพของอนิเมะทำดีมาก
5.คนญี่ปุ่นเวลาอะไรเป็นกระแสจะแห่ตามกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกตินะ  ดูได้ทั้งวัยรุ่น  วัยทำงาน

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[สปอย] Sweet Stranger and Me ทำไมพระเอกถึงดีใจตอนถูกนางเอกเรียกตัวเองว่าพ่อ

หลังจากดูตอนนี้ 5 จบ
เราจะสปอย 3 แบบ แบบสั้นมาก แบบสั้น และแบบยาว



   แบบสั้นมาก : เพราะพระเอกรักนางเอกมากกกก จนอยากเป็นพ่อนางเอกเลย อยากปกป้องดูแล

   แบบสั้น : พระเอกแอบรักนางเอกมาตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว แต่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยไม่คู่ควร เลยไม่อยากให้นางเอกรู้ว่าตัวเองรัก และไม่อยากให้นางเอกมารักตัวเอง ก็เลยตัดสินใจว่าจะเป็นพ่อของนางเอกเพื่อที่ได้ปกป้องนางเอกและแอบรักนางเอกไปเงียบๆ และคอยดูให้นางเอกได้เจอกับผู้ชายดีๆมาเป็นลูกเขยตัวเอง


   แบบยาว  :  พระเอกเป็นเด็กกำพร้า แล้วแม่นางเอกไปเป็นอาสาสมัคร พระเอกโดนเด็กคนอื่นแกล้งบ่อยๆ แม่นางเอกก็เลยมาคอยดูแล พระเอกรู้สึกว่าเหมือนเป็นแม่ตัวเองจริงๆ ก็เรียกแม่ของนางเอกว่าแม่มาตลอด พอรู้ว่าแม่อยู่กับลูกสาวสองคนเพราะหย่ากับสามี ก็รู้สึกอยากปกป้องแม่ ต่อมาพระเอกก็รู้ว่าแม่มีลูกจริงๆอยู่คือฮงนาริ(นางเอก) ก็เลยแอบอิจฉานางเอกนิดๆ ก็เลยชอบแอบตามไปดูนางเอกที่โรงเรียน ตอนแรกตามไปดูเพราะอิจฉา แต่พอไปตามทุกวันๆ ก็เลยหลงรักนางเอก แต่นางเอกไม่เคยรู้ตัวว่าพระเอกแอบตามตัวเอง ตั้งแต่เด็กยันโต(ซื่อบื้อสมกับเป็นนางเอก) เวลานางเอกโดนใครแกล้ง พระเอกก็จะตามไปจัดการพวกนั้น เวลาฝนตกก็แอบเอาร่มไปให้นางเอก

พระเอกรักแม่ของฮงนาริเหมือนแม่ตัวเอง เลยอยากให้แม่ของฮงนาริเป็นแม่ตัวเอง แต่พระเอกไม่เคยคิดอยากเป็นน้องชาย ไม่เคยอยากเป็นพี่น้องกับฮงนาริเลย  แต่กลับอยากแต่งงานกับฮงนาริ จะได้มีแม่คนเดียวกัน 55555

ตอนนางเอกเรียนจบม.ปลาย นางเอกสอบติดมหาลัยไปอยู่ที่โซล
ส่วนพระเอกตอนจบม.ปลาย มีหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียมารับไปเป็นลูกเลี้ยง พระเอกเลยโตมาเป็นนักเลง และไม่ได้เรียนต่อมหาลัย พระเอกต้องไปทำงานไม่ดีตามที่พ่อเลี้ยงสั่ง แต่พระเอกก็ยังแอบตามไปดูนางเอกบ่อยๆที่มหาลัย

บ้านเด็กกำพร้าถูกปิดตัวลง แม่นางเอกซื้อที่ดินตรงนั้นมาทำเป็นร้านเกี๊ยวฮงร้านใหม่

จนนางเอกเรียนจบได้เป็นแอร์โฮสเตส พระเอกยิ่งรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยลงเรื่อยๆ และนางเอกสูงส่งขึ้นเรื่อยๆ จนวันนีงพระเอกไปทำงานให้พ่อเลี้ยงแล้วถูกตำรวจจับ พระเอกเลยติดคุก

พอพระเอกออกจากคุกมา พระเอกไม่มีที่ไป และไม่อยากกลับไปเป็นนักเลงอีก พระเอกเลยกลับไปที่บ้านเด็กกำพร้า และได้เจอกับแม่ของนางเอกอีกครั้ง ที่เปิดร้านเกี๊ยวฮงอยู่
พระเอกตัดสินใจช่วยดูแลแม่และร้านเกี๊ยวฮง  ต่อมาพ่อนางเอกหายตัวไป พวกดาด้าก็ตามทวงหนี้กับแม่นางเอก พระเอกก็ตัดสินใจปกป้องแม่และที่ดินของแม่ แม่รู้ว่าพระเอกรักฮงนาริแต่ไม่อาจเอื้อมเป็นแฟนกับฮงนาริ  แม่รักพระเอกเหมือนลูกอีกคน และคิดว่ายังไงนางเอกคงแต่งงานกับแฟนอยู่ที่โซล เลยตัดสินใจยกบ้านและร้านเกี๊ยวฮงให้พระเอก  พระเอกคิดว่าร้านเกี๊ยวฮงซึ่งเดิมเคยเป็นบ้านเด็กกำพร้าเป็นความทรงจำของเค้ากับแม่ เค้าเลยตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับแม่ของฮงนาริ เพื่อให้จัดการเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้น

เมื่อแม่ถามเรื่องฮงนาริ พระเอกตอบว่าแบบนี้ดีแล้ว เค้าเองจะได้ปกป้องฮงนาริในฐานะของพ่อ และเค้ายังสามารถรักฮงนาริต่อไปได้เรื่อยๆ ได้เจอเธอบ้างบางครั้งเมื่อเธอกลับมาเยี่ยมบ้าน

 ✿✿✿✿✿✿✿    HILIGHT  ✿✿✿✿✿✿✿✿

เพราะงั้นพระเอกเลยดีใจมาก ตอนที่ฮงนาริเรียกเค้าว่าพ่อ เพราะนั่นแปลว่าฮงนาริยอมรับเค้าแล้วในฐานะพ่อ เธออนุญาติให้เค้าสามารถปกป้องเธอได้ในฐานะพ่อ และเพื่อที่ตัวเค้าเองจะได้ไม่ลืมด้วยว่าตัวเองเป็นพ่อ จะได้ไม่เผลอไปหลงรักนางเอกมากไปกว่านี้  

 ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

พระเอกไม่คิดที่จะมีแฟนหรือแต่งงาน เพราะอดีตของตัวเองที่เคยเป็นมาเฟียมาก่อน และยังมีร้านเกี๊ยวฮงและที่ดินของแม่ที่ต้องดูแลอีกด้วย

แต่ว่าช่วงนี้ฮงนาริกลับบ้านบ่อยเกินไป โกนันกิลจะอดทนต่อความหวั่นไหวนี้ได้หรือไม่

ปล.พระเอกทำฟาร์มข้างบ้าน ปลูกสตรอเบอรรี่ไว้กินด้วย น่ารักอะไรแบบนี้น๊า

ยังไงนางเอกต้องหลงรักพระเอกแน่ๆ แสนดีแบบนี้